กลับมาแล้วจ้าาาาาาา ~
หายไปนาน สงสัยลืมกันไปแล้วแน่เลยอะ T T
ช่วงนี้เป็นช่วงกลางเทอม 1 แล้วครับ การบ้านชิ้นใหญ่ๆเริ่มต้องทยอยส่ง อ่านหนังสือก็ไม่ค่อยทัน (แต่ก็ยังพอมีเวลาไปเที่ยวนะ)
เอาละ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสจัดทริปส่วนตัวไปเที่ยว Cambridge เป็นเมืองที่น่ารักมาก มีแม่น้ำแคมไหลผ่าน มหาลัยดูยิ่งใหญ่สมคำลำลือ มาเริ่มกันเลย ลุย!
เราออกเดินทางออกจาก ลีดส์ ตอนประมาณ 9 โมงเช้า ตามกำหนดการคือจะไปถึง Cambridge ประมาณ เที้ยงนิดหน่อย โดยต้องไปเปลี่ยนรถไปที่สถาที Stevenage (เป็นเหมือนสถานีย่อย ลักษณะคล้ายๆสถานีรถไฟดอนเมืองบ้านเรา) และแน่นอนครับเปลี่ยนรถไฟแบบนี้งานหลงต้องมา 5555 นั่งเพลินๆผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า รถไฟจอดและเดินทางมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 สถานี มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นป้ายเขียน Stevenage เห้ย! มันถึงแล้วนี้หว่า ผมนี้หยิบกระเป๋ากระโดดลงรถไฟแทบไม่ทัน
หลังจากเราก้าวออกจากรถไฟ ก็ต้องข้ามชานชลา เพื่อเป็นการกันพลาด คร่าวนี้เลยถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าว่าต้องไปต่อชานชลาไหน ในที่สุดก็ถึงซะทีนะ Cambridge with Love
สถานนีรถไฟค่อนข้างห่างจากตัวเมือง ที่เราวางแผนว่าจะไปเที่ยวกัน ถ้านั่งรถเมย์จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ถ้าเดินจะประมาณ 20 นาที ผมเลือกเดินดีกว่าครับ ไหนๆมาทั้งที ขอเดินดูเมืองซักหน่อย โดยส่วนตัว ผมไม่ค่อยชอบเวลาเราไปเที่ยวที่ไหน แล้วเห็นแต่ที่เที่ยว (สำหรับนักท่องเที่ยว) เราอยากเห็นว่า คนที่นี้เขาอยู่กันยังไงจริงๆ ใช้ชีวิตกันยังไง ไม่ใช่ไปที่ไหนก็เจอที่สถานที่ ที่เขาจัดไว้ ขายของ ให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเดียว
อย่างที่รู้กันครับ Cambridge เป็นเมืองแห่งการศึกษา มีมหาลัยชื่อดังตั้งอยู่ในเมืองมากมาย ทั้ง Cambridge University, King’s Colleage และ Trinity Colleage ซึ่งแต่ละที่ก็มีจุดเด่นแต่ละสาขาของตัวเอง
ประเด็นที่เล่ามาไม่ได้มีอะไรครับ แค่จะบอกว่าเมืองนี้คนใช้จักรยานเยอะมากๆๆๆๆๆ
ระหว่างทาง เราก็จะเห็นจักรยาน(นักศึกษา) จอดเรียงรายกันเป็นตับ จนเป็นภาพที่ชินตา เพราะที่ Cambridge ลักษณะมหาลัยจะไม่ได้มีรั่วเป็นขอบเขตเหมือนมหาลัยทั่วๆ แต่ละคณะจะตั้งแยกตัวออกมา อยู่ตามจุดต่างๆทั่วเมือง เพราะฉะนั้น วิธีการเดินทางที่ง่ายและประหยัดที่สุดคงหนีไม่พ้น จักรยาน ใช่มั้ยละครับ
เดินต่อมาอีกซักระยะก็เจอมหาลัย Open University อันนี้ผมเคยลงทะเบียนเรียนใน itune อยู่ช่วงนึง เป็นมหาลัยลักษณะคล้ายๆ สุโขทัยธรรมาธิราช ที่เป็นการเรียนทางใกล้ เปิดโอกาสให้คนไม่มีเวลาได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
เดินตเท้าต่อมาอีกไม่ไกลนัก ก็เจอ Cambridge Business School กรี๊ดดดด กรี๊ดดดดดด (5555555 สาวแตกฮะ) Business School อันดับหนึ่งบนเกาะอังกฤษมันคือที่นี้นี้เอง แค่เห็นรั่วก็ขนลุกแล้วครับ (เวอร์ไปนะ) 55555
เอาละ ใกล้จะถึงสถานที่ท่องเที่ยวแรกของเราแล้วครับ ท้องก็เริ่มจะส่งเสียงเรียงร้องแล้ว ใช้พลังงานไปเยอะตอนวิ่งลงจากรถไฟ 5555 ไปหาร้าน Afternoon Tea อร่อยๆ ทานกันดีกว่า
อ่านในรีวิวหลายที่ พูดเป้นเสียงเดียวกันว่า ต้องเป็นร้าน Auntie tea shop ที่เป็นเหมือนร้านประจำเมือง (เนื่องจากหิวมาก เลยลืมถ่ายรูปมา ต้องขอโทษด้วยนะครับ เสียใจ T T)
อันนี้เป็นรูปที่เอามาจากเวป http://prairie.typepad.com/my_weblog/page/3/ สิ่งที่ต้องสั่ง ห้ามพลาดสำหรับร้านนี้ก็คือ ชุด Creamy afterniin tea ประกอบไปด้วย ชาหนึ่งกา สำหรับหนึ่งท่าน และสโคนอันโต ที่เลือกแยมได้ว่าจะเอาเป็นราสเบอร์รี่ หรือ สตอเบอร์รี่
พอทานเสร็จก็ถึงเวลาเที่ยวเต็มตัวแล้วนะ ที่แรงที่จะไปก็คือ King’s College Chepal เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเมือง Cambridge
ค่าเข้า สำหรับผู้ใหญ่ อยู่ที่ £8 เด็ก/นักศึกษา £5.5 จัดไปครับ
ประวัติคร่าวๆของ King’s College หรือวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ สร้างขึ้นในปี 1441 หรือ 570 กว่าปีที่แล้ว โดยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 เดิมเนี้ย คนที่สามารถเข้าเรียนที่วิทยาลัยนี้ได้ ต้องเป็นนักเรียนที่จบจากโรงเรียนอีตัน (Eton) เท่านั้น เอาง่ายๆก็น่าจะเป็นโรงเรียนให้พวกคนชนชั้นสูงหรือขุนนางทั้งหลาย และแน่นอนครับ เขาว่ากันว่าตอนนั้นไม่มีสอบ คือเรียนให้ครบ ก็จบได้ เป็นเหมือนตัววัดฐานะ อย่างนึง
ทั้งหมดที่กล่าวมา ในที่สุดก็ถูกยกเลิกไปในปี 1865 และกลายเป็นวิทยาลัยที่เข้ายากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ถ้าใครเข้าไปเรียนได้นี้ต้องยอมรับว่าเขาต้องไม่ธรรมดาจริงๆ (แค่เดินผ่านนักเรียนที่แคมบริช ก็รู้เลยว่าแต่ละคนไม่ธรรมดา 55555)
เข้ามาด้านใน ยิ่งใหญ่อาลังการงานสร้างมากครับ สูงมาก จนนึกไม่ออกว่าช่างสมัยนั้น จะขึ้นไปวาดลวดลายข้างบนนั้นได้ยังไง สุดยอดจริงๆ ถ้าไม่ใช้กษัตริย์สั่งให้สร้างคงไม่ไดขนาดนี้แน่
เดินไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกเหมือนอยู่ในหนังแฮรี่ พอตเตอร์ แต่แปลกเหมือนกัน แค่ผมเข้ามาในนี้ ผมก็รู้สึกสงบอย่างน่าเหลือเชื่อ อาจจะเป็นเพราะเสียงออร์แกน ที่ก้องอยู่ในโบสถ์ ก็เป็นได้
หลังจากเดินด้านในซักพัก ก็มาต่อกันที่ข้างนอก วันนี้อากาศอาจจะไม่ได้ดีมาก มีเมฆและลมแรงพอสมควร แต่อย่างน้อยฝนก็ไม่ตก ก็ถือว่าโชคดีและ
ภาพถ่ายด้านข้าง
ภาพถ่ายระยะไกล
เวลาผ่านไปเร็วมากครับ แปปๆฟ้าก็จะมืดแล้ว ใช่ครับ ในช่วง Autumn เนี้ย ฟ้าที่ประเทศอังกฤษจะเริ่มมืด ตั้งแต่ประมาณ 4 โมงเย็น 6 โมงนี้มืดอย่างกะสี่ทุ่มบ้านเรา เวลาในตอนกลางวันก็เลยเหลือน้อยลง T T เซงเลย
**โพสนี้เขียนไม่จบค้างไว้นานมาก แต่จะลบก็เสียดาย ขออนุญาต Publish เลยและกันนะครับ
*เพิ่มเติมนะครับ สำหรับผู้ที่สนใจไปเที่ยวที่ Cambridge สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ การไปล่องเรือ บริเวณคลองต่างๆในเมือง จะมีไกด์ค่อยอธิบายสถานที่ต่างๆ ถือว่าคุ้มมาก ยิ่งถ้ามาหน้าร้อนนี้ สวยสุดๆ
มีเรื่องราวมากมาย เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางและการไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ
สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://natthapoldiary.wordpress.com
ขอบคุณครับ 🙂
Natthapol Diary - Official blog of Natthapol Cholavit 
ใส่ความเห็น