โอเคครับ ตามสัญญา มาต่อกันเลยเนอะ
หลังจากลงเครื่อง และเจอกับเพื่อนที่มารับเรียบร้อย เราก็นั่งรถไฟใต้ดิน หรือใช้ภาษาของคนที่นี้เรียกว่า TUBE สาย Heathorw Connect จากสนามบินไปต่อรถเท็กซี่ เข้าที่พัก (ส่วน Heathrow Express จะราคาแพงกว่าและเร็วกว่า ซึ่งเราประหยัดตังครับ ไม่ขึ้น 555) นั่งยาวๆมาลงที่สถานนีอะไรซักอย่าง ผมก็จำไม่ได้และ 5555 (มั่วแต่ตื่นเต้นกับวิวนอกหน้าต่าง บรรยกาศชานเมือง)
พอลงจากรถไฟปุ๊บ ผมก็บอกเพื่อนว่า เรานั่งรถเท็กซี่กันเถอะ อาจจะเป็นเรื่องตลกนะครับ แต่ผมคิดว่าเสน่ห์ของลอนดอนก็คือระบบขนส่งมวลชน ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี เอาน่าาา ขอนั่งให้หมดเท่าที่จะนั่งได้และกัน ที่นี้เขาจะเรียก แท็กซี่ว่า black cab ถ้าอเมริกาก็อาจจะเรียกว่า Yellow cab
อะไรๆก็ดูตื่นเต้นไปหมดเลยอะ 5555 ความรู้สึกที่ง่วงนอนหลังจาก 12 ชั่วโมง ที่หลับๆตื่นๆนั้น หายไปเป็นปริทิ้ง
ยังคงถามตัวเองอีกครั้ง นี้เรามาถึงลอนดอนจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี้ย ไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากเดินทางเข้าที่พัก ผมก็ขอตัวจัดของและอาบน้ำซักหน่อย ก่อนเริ่มออกเดินทางเที่ยวในวันแรก
วันนี้เราจะไป Tafalgar Square, Buckingham Palace, St.Jame Park, Westminster Parliament,
TATE MODERN, Millennium Bridge, St. Paul Cathedral, Oxford Circus เยอะเนอะ ไม่น่าเชื่อวันเดียวจะเก็บหมด
มาเริ่มกันเลย
ผมนั่งรถ bus ออกจากป้ายใกล้ๆบ้าน อากาศในรถค่อนข้างร้อน เนื่องจากรถถูกออกแบบมาให้มีแต่พัดลม กับ ฮิตเตอร์ เพื่อสร้างความอบอุ่นในหน้าหนาว แต่ในช่วงอากาศหน้าร้อนอย่างวันนี้ อุณหภูมิปาเข้าไป 30 กว่าองศา ในรถนี้บอกได้เลยว่าร้อนแบบแห้ง เหงื่อมันไม่ออก ทรมานสุดๆ
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็เริ่มเดินกัน ไม่รู้ที่ไหน แต่เพื่อนก็แนะนำไปเรื่อยๆระหว่างทาง ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง 5555 มั่วแต่ตื่นเต้น และถ่ายรูปกับสิ่งรอบๆตัว ก็อะไรๆ มันก็ใหม่สำหรับเราไปหมดอะ ผมค่อนข้างชอบความรู้สึกแบบนี้เสมอเวลาเราต้องอยู่ในที่ที่เราไม่คุ้นเคย หูตามันจะเปิดกว้างอยู่เสมอ และตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว รู้สึกเหมือนตัวเองกลายมาเป็นเด็กประถม ที่พร้อมจะหลุดกรอบและเรียนรู้สึกใหม่ๆตลอดเวลา
มาถึงที่แรก Tafalgar Square ที่เป็นที่ตั้งของ National Gallery หลังจากเก็บภาพมาพอสมควร เราก็เดินเท้าต่อมาไปจุดหมายต่อไป
เดินมาอีกค่อนข้างไกล ถ่ายรูปไปแล้วร้อยกว่ารูป 55 ในที่สุดก็มาถึงแล้ว Buckingham Palace ว้าววว ที่นี้ นี้เองที่ควีนประทับ ใหญ่และสวยงามสมคำรำลื่อจริงๆ เสียดาย มาไม่ทันตอนทหารยามเปลี่ยนเวร ตอน 11:30 ไม่งั้นคงได้ถ่ายรูป และมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเยอะเลย
โอเค หลังจากถ่ายรูปและเดินสำรวจพอหอมปากหอมคอ ผมและเพื่อนก็เดินต่อมาที่ St.Jame Park เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่อยู่บริเวณวัง (ตอนแรกชื่อคล้ายสนามเหย้าของที่ Newcastle แต่เพื่อนบอกมันไม่ได้เกี่ยวกัน) จากตรงนี้มองไปไกลๆ เห็น London Eye ด้วยแหละ น้ำๆใสๆ กับเป็ดน้อยว่ายไปมาในบึง นี้มันอังกฤษจริงๆเลยนะเธอ~
เราเดินต่อไปที่ Westminster Parliament หรืออาคารรัฐสภาของอังกฤษ ที่เดิมเคยเป็นวังที่ประทับมาก่อน ถึงแล้ว Big Ben หอนาฬิกา Big Ben จริงๆแล้ว ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Elizabeth Tower (พึงเปลี่ยนเมื่อปี 2012) ส่วน Big Ben มาจากชื่อคนทำระฆังอันใหญ่ที่อยู่ด้านบน คอยตีบอกเวลา คือ Ben อะไรซักอย่างกะความสูงใหญ่ของหอนาฬิกา เลยกลายมาเป็น Big Ben 5555 (ข้อมูลมาครึ่งเดียว)
เดินต่อมาจาก Big Ben มาหน่อยก็จะเห็น London Eye อย่างชัดเจนเท่านั้นเอง
หลังจากนั้นเราก็เดินๆๆต่อไป (เดินเยอะมากจริงๆ) จนไปถึงตึกที่จัดแสดงงานศิลปะต่างๆ ที่มีชื่อว่า TATE MODERN ซึ่งเจ้าตึกเนี้ย ถ้าขึ้นไปชั้น 5 จะมี Cafe ที่สามารถมองออกไปเห็นแม่น้ำ Thames ที่มี สะพานคนเดิน Millannium Bridge ข้ามผ่านและ โบสถ์ St’Paul Cathedral ที่สวยงามแห่งหนึ่ง
นั่งพักพอหายเหนื่อย เราก็เดินลงไปเพื่อจะข้ามสะพานกัน สะพาน Millannium เป็นสะพานให้คนเดินข้ามแม่น้ำ Thames จริงๆ ผมยังไม่เข้าใจนักว่าทำไม เขาถึงลงทุนมหาศาลในการสร้างสะพานให้คนเดินข้าม แต่พอจะเข้าใจว่า เขาให้ความสำคัญกับคนเดินมากทีเดียว
เราก็จะเดินทางไปช้อปปิ้งกันต่อที่ Oxford Circus ซึ่งไอ้สถานที่แห่งเนี้ย เปรียบเสมือนย่านใจกลางเมือง ที่เต็มไปด้วยร้านค้าเสื้อผ้า แบรนด์เนมชั่นนำมากมาย (วันนี้มาเขาลดราคา Mid Year ด้วยแหละ ถูกกว่าไทยมว๊ากกกก!) H&M ZARA SUPERDRY UNIQUE ถ้านึกไม่ออก คนจะเยอะพอๆกับที่ Shibuya ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
(อันนี้ต้องขออภัยจริงๆ ลืมถ่ายภาพมาให้ดู มัวแต่เดินเข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ ยุ่งมาก ไม่มีเวลาถ่ายเลย 5555)
โอเค ย๊าวยาวและ คนเขียนก็เหนื่อยมากและ 555
พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นแต่เช้า ขึ้นรถไฟเที่ยว 9 โมง จาก King’s Cross, London ไป Leeds อีก 2 ชั่วโมงกว่า
กว่าจะได้เข้าที่พักอีกคง บ่ายแก่ๆ ขอไปพักผ่อนก่อนและกันเนอะ
สำหรับวันที่สอง ติดตามต่อที่นี้เลยครับ Second day in London
Natthapol Diary - Official blog of Natthapol Cholavit 
ใส่ความเห็น