อาทิตย์ที่ 2 ของการใช้ชีวิตที่ Leeds เมืองทางตอนบนของประเทศอังกฤษ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ชีวิตตอนนี้มีหักมุมเล็กน้อย การบ้านเริ่มเยอะ งาน Part time กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การหาที่พักในช่วง September ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (หาบ้านพักในอังกฤษต้องทำอย่างไรดูได้ ที่นี้ ครับ)
หลังจากเข้าอาทิตย์ที่สอง การบ้านส่วนใหญ่เป็นการอ่านบทความ (ประมาณ 8-10 หน้า) ทุกวัน ถ้าอยู่ที่เมืองไทย การบ้านแบบนี้ชิวมากครับ ไม่ต้องอ่านก็ได้ (55555) ตอนเช้าค่อยไปฟังเพื่อนสรุปให้ฟังก็โอเค แต่ไม่ใช่กับที่นี้ แต่ละบทความค่อนข้างมีรายละเอียด ต่างคนต่างจับใจความสำคัญต่างกัน ยิ่งถ้าเจอคลาสที่เป็นการ Seminar หรือสัมมนา ยิ่งแล้วใหญ่ (ลักษณะการเรียนจะให้นักเรียนนั่งจับกลุ่มกัน มีคำถามที่เกี่ยวข้องในบทความนั้นๆให้มานั่งถกเถียงกัน ซึ่งแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบประมาณ 2 คำถาม ถ้าใครไม่ได้อ่าน หรือจับใจความไม่ดี เพื่อนๆในกลุ่มก็จะไม่เข้าใจ และจะรู้เลยว่าไอนี้มันไม่ตั้งใจอ่านมา) แย่เลยทีนี้
อีกหนึ่งโปรเจคใหญ่คือการเขียน essay เกี่ยวกับเรื่อง “International busniess needs to account for national culture differences” ถ้าแปลเป็นไทย ก็คงประมาณว่า ให้อธิบายและยกตัวอย่าง ทำไมบริษัทข้ามชาติจึงจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างของวัฒธรรม น่าจะประมาณนี้ ความยากไม่ได้อยู่ที่ว่า เราต้องเขียน 1200 คำ แต่ความยากมันอยู่ที่ การจับใจความและเรียบเรียงออกมา โดยใช้ Acadamic Form (รูปแบบการเขียนและการวิจัย) มันยากมาก เพราะเนื้อหาที่อ่านมาทั้งหมด มากกว่า 50 หน้า ต่างบทความให้ความเห็นแตกต่างกัน ไหนจะต้องมาปรับคำให้ดูเป็นทางการอีก ปวดหัวเอาการอยู่เหมือนกัน

นอกจากจะต้องอ่านบทความทุกวันแล้ว งาน Part time ที่รับปากเอาไว้ก็ยังต้องทำอีก การจัดสรรเวลาช่วงนี้ นี้ยากสุดๆ หลังจากทิ้งเบอร์ไว้ที่ร้านอาหารไทยในเมือง ป้าเจ้าของร้านก็โทรกลับมา ตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายคือ “Dish washer” หรือพนักงานล้างจาน นั้นเอง (5555 เรียกให้หล่อไปงั้น) หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมมาล้างจานละ สาเหตุหลักๆมีอยู่สองข้อครับ คือ 1.พนักงานเสิร์ฟต้องรอคิวนานมาก เพราะมีคนมาลงชื่อไว้ก่อนเยอะแล้ว (ก็ไอพวกเพื่อนๆคนไทยด้วยกันนั้นแหละฮะ) 2. ได้ค่าแรงเยอะกว่า (เหมือนเป็นคนเห็นแก่เงิน แต่ที่มาทำงานก็เพราะต้องการเงินไม่ใช่หรอ) ถ้าเสิร์ฟ ได้ 35 ปอนด์ แต่ถ้าล้างจานได้ 40 ปอนด์ ไม่รวมทิป แต่เหนื่อยกว่า 3 เท่าได้ 55555

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดในช่วงนี้คือการหาที่พักในช่วงกันยายน เราใช้วิธีหาจากเวป และติดต่อกับ agent ให้เช่าบ้านในบริเวณมหาลัย โดยวิธีคือ เราเข้าไปติดต่อที่บริษัท หรือเลือกบ้านตามที่เราต้องการแล้ว ก็ทำการนัดเวลาเพื่อไปดูสถานที่จริง (เราไม่สามารถดูได้ ต้องทำการนัดเวลาก่อนทุกครั้ง) เมื่อถึงเวลานัดในวันถัดไป ทางบริษัทก็จะพาเรานั่งรถไปดูบ้าน บางทีก็ยังมีคนอยู่ บางทีก็ว่าง หลังจากดูเสร็จ ก็วางเงินประกัน จ่ายเงิน คือกระบวนการนี้ รวมๆใช้เวลาเกิน 7 วัน กว่าจะหาบ้านที่ถูกใจ ในราคาที่พอรับได้นี้ยากมาก (บทความหาบ้านดูได้ตรงนี้เลย)
ราคาที่พักใน Leeds (ถูกกว่าสำหรับคนที่อยู่ใน London) เขาจะคิดราคาเป็น ต่อ week แต่ก็จ่ายเป็นรายเดือนนั้นแหละ ถ้ามีห้องน้ำในตัวจะอยู่ที่ประมาณ 125 ปอนด์ เป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าเลือกเป็นแชร์ห้องน้ำ ก็จะยิ่งถูกลง สำหรับของผม ผมให้งบไม่เกิน 100 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ และเลือกเฉพาะใกล้มหาลัยเท่านั้น (ไม่งั้นต้องเสียค่ารถ Bus ทุกวัน) แต่ที่หาได้ตอนนี้อยู่ที่ 70 ปอนด์ ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก็ส ค่าเน็ต รวมๆแล้วก็จะประมาณ 85 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ถ้าคิดเป้นเงินไทยไม่ถูก ให้เอา Week Rate คูณ 56 หารด้วย 12 ก็จะออกมาเป็นตัวเลขรายเดือน (ปีนี้มี 56 สัปดาห์ และ 12 เดือน) เท่ากับ 85 คูณ 56 หาร 12 เท่ากับ 396.67 ปอนด์โดยประมาณ ถ้าคูณเงินไทยอีก ประมาณ 54 บาท ต่อ ปอนด์ ก็ 21,420 บาทต่อเดือน แพงเอาเรื่องเหมือนกัน เพราะงั้นเรื่องหาบ้านนี้ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษครับ
อาทิตย์นี้เริ่มรู้สึกเครียดมากกว่าอาทิตย์แรก ที่เดินชิวๆ ตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่รอบกาย ตอนนี้เลยชินชา และรู้สึกกลมกลื่นมากขึ้น อยู่คนเดียวที่ Leeds นี้ ทุกอย่างต้องตัดสินใจให้รอบคอบ เพราะถ้าผิดพลาดทีนึงนี้ เรื่องใหญ่
แต่ในความรู้สึกส่วนตัวแล้ว การอาศัยอยู่ในสังคมตะวันตก มันง่ายกว่าอยู่แบบบ้านเราจริงๆ การหาบ้าน การทำงาน การเรียน ถ้ายกอาหาร และผู้คน พ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อน ญาติ มาอยู่นี้หมดได้นี้จะดีมาก (ฝันกลางวันชัดๆ) 5555
โอเคครับ พอหอมปากหอมคอ ขอกลับไปเขียน essay ต่อ เดียวไม่เสร็จแล้ว งานเข้าเลยอีก
ขอบคุณที่ติดตามครับ




ส่งความเห็นที่ The First Week in Leeds, Real life in UK – สัปดาห์แรกในลีดส์ – LIFE+JOURNEY ยกเลิกการตอบ