China Changed – No. 02 คนจีนเสียงดังกันจังวะ!!

No. 02 ” คนจีนเสียงดังกันจังวะ!! ”
วันแรกที่ออกเที่ยวคนเดียว เราออกจากที่พักและเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน ที่อยู่บริเวณนอกเมือง

จริงๆรถไฟที่นั้นดูทันสมัยทีเดียว มีชื่อของสถานีเป็นภาษาอังกฤษตัวเล็กๆอยู่ด้านใต้ภาษาจีน ก็พอช่วยได้ในการเดินทางไปไหนมาไหน ในเมือง Shanghai

จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงวันธรรมดาน่าจะก่อนเที้ยง คนไม่เยอะเท่าไหร่ เมื่อเดินเข้าไปในรถไฟ เราสามารถได้ยินเสียงคนจีนคุยกันแบบเต็มเสียง

บางคนก็เล่นเกมแบบไม่ใส่หูฟัง ดูคลิปที่มีเพลงสั้นๆ สลับไปมา แบบไม่แคร์ใคร

มันเหมือนเป็นสถานการณ์ที่โคตรปกติ ไม่มีใครหงุดหงิด หรือใส่ใจกับเสียงรอบตัว แต่เราแม่งแบบตื่นตาตื่นใจมาก ว่า “เห้ย! เสียงดังขนาดนี้ เขาอยู่กันได้ยังไงวะ บ้าแล้ววว”

เข้าเมืองมาเรื่อยๆ คนเริ่มเยอะขึ้น คนจีนเกือบทุกที่เข้ามา ถ้าไม่คุยกันก็จะหยิบมือถือขึ้นมาเล่น

คนจีนเบียดเสียดเข้ามามากขึ้นทุกสถานี คนด้านในโดนดันจากคนข้างนอกที่เข้ามาใหม่ รองเท้า Nike ที่ใส่ไปโดนเหยียบจนรู้สึกเฉยๆ

พอถึงสถานีที่เราต้องออก เราก็ต้องพยายามเบียดเสียดออกมาเอง ไม่มีใครขอโทษใคร ทั้งดันทั้งผลัก คนข้างในก็จะออก คนข้างนอกแม่งก็จะเข้า ไม่ต่างอะไรจาก BTS บ้านเราเวลา 8 โมงเช้า

+++++++

เดินตามถนน ตึกลาบ้านช่องดูสวยงามในแบบเอเชียสลับยุโรป มีความเก่าแบบร่วมสมัยและมีความใหม่ผสมกันอย่างลงตัว พื้นทางเดินเรียบเดินสบาย ต้นไม้สีต่างๆถูกปลูกและดูแลอย่างตั้งใจ

ในขณะเดียวกัน คนก็เดินสูบบุหรี่กันเป็นเรื่องปกติ บางคนเดินๆไปก็ถุยน้ำลายลงพื้น ทิ้งก้นบุหรี่กันเต็มทางเท้า

บางทีก็เห็นเด็กผู้หญิง แอบวิ่งไปนั่งฉี่ในพุ่มไม้ “บ้าแล้ว บ้าไปแล้ววว” ทำไมมันผสมกันได้แบบนี้ละ

========

ช่วงเย็นเราได้นัดกินข้าวกับเพื่อนคนจีน
และได้ถามสิ่งที่ติดอยู่ใจ สรุปใจความได้ดังนี้

Q: คนจีนเสียงดังขนาดนี้อยู่กันยังไงวะ แล้วทำไมต้องพูดเสียงดัง?
A: การพูดเสียงดังเป็นลักษณะของภาษาและการแสดงความรู้สึก ว่าจริงใจ มีความสุข โต้เถียง คนที่นี้เขาไม่สนใจหรอก ว่าคนอื่นจะเป็นยังไง ก็อาจจะมีคิดในใจบ้าง แต่ก็ช่างแม่ง คือไม่แคร์ใครที่เราไม่รู้จัก (ยกเว้นในที่ทำงานและงานสังคม)

Q: ทำไมยังมีการแซงคิว ถุยน้ำลาย และกิริยาที่ไม่ค่อยดี ที่เห็นได้ทั่วไป?
A: คนจีนมันค่อนข้างหลากหลาย คนจีนดีๆที่เคารพกฎก็มี แต่คนไม่ดีก็เยอะ เขาคิดว่ามันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่แย่มากมายขนาดนั้น มันไม่ดีอะใช่ แต่ถ้าเราไม่แคร์ก็จบ

Q: ทำไมเหมือนคนจีนที่นี้ถึงไม่ค่อยยิ้ม หน้าบึ่งตลอด?
A: เพราะคน Shanghai เป็นคนเครียด เราต้องรับภาระค่าครองชีพที่สูง มีการแข่งขันมากมาย ต้องทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจเรื่องอะไร คนก็มักจะไม่ค่อยยิ้ม ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันจริงๆ

เอาจริงๆ เที่ยวอยู่ Shanghai ประมาณ 1 อาทิตย์ เราก็แอบเริ่มชิน เริ่มไม่แคร์ จะออกจากรถไฟก็เบียดออกมา และเห็นขี้บุหรี่บนพื้นก็แค่ไม่ต้องไปเหยีบ ปล่อยวางไปก็จบ Focus แต่สิ่งที่เราจะทำก็พอ

Shanghai เป็นหนึ่งใน 4 เมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของจีน ผู้คนมีความหลากหลาย มาจากหลากเมืองและหลายประเทศ ทำให้ลักษณะการใช้ชีวิตที่นี้ ก็เหมือนเมืองใหญ่ทั่วๆไป

จะพูดอีกทีก็อาจจะพูดได้ว่า มันเหมือนกรุงเทพในขั้นกว่าเป็นสังคมเมือง ที่ผู้คนสนใจแต่ตัวเองอย่างแท้จริง…

#natthapolxchina #จีนในมุมมองคนธรรมดา

—————
ปล.1 เนื้อหาทั้งหมด เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล อาจจะไม่ได้ลงลึกมาก เป็นภาพกว้างๆที่ทำให้เห็นความแตกต่างในการใช้ชีวิตประจำวัน

ปล.2 ตอนต่อไปจะพูดถึงเรื่อง “เทคโนโลยี” ในชีวิตประจำวันของคนที่นั้น ว่ามันสะดวกสบายแค่ไหน (และดีกับระบบเศรษฐกิจยังไง)

ติดตามบทความสั้นของชุด China Changed ได้ที่นี้
No.01 – ทำไมต้องไปจีน!!
No.03 – เทคโนโลยีคือทุกสิ่ง
No.04 – อยู่กันอย่างไรในสังคมที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย
No.05 – กำเนิดคนไทยเชื้อสายจีน

 

4 ตอบกลับไปที่ “China Changed – No. 02 คนจีนเสียงดังกันจังวะ!!”

  1. […] ติดตามบทความสั้นของชุด China Changed ได้ที่นี้ No.2 – “คนจีนเสียงดังกันจังวะ” […]

    ถูกใจ

  2. […] China Changed ได้ที่นี้ No.01 – ทำไมต้องไปจีน!! No.02 – คนจีนเสียงดังกันจังวะ No.03 – เทคโนโลยีคือทุกสิ่ง No.05 – […]

    ถูกใจ

  3. […] China Changed ได้ที่นี้ No.01 – ทำไมต้องไปจีน!! No.02 – คนจีนเสียงดังกันจังวะ No.04 – […]

    ถูกใจ

  4. […] China Changed ได้ที่นี้ No.01 – ทำไมต้องไปจีน!! No.02 – คนจีนเสียงดังกันจังวะ No.03 – เทคโนโลยีคือทุกสิ่ง No.04 – […]

    ถูกใจ

ส่งความเห็นที่ China Changed – No. 01 ” ทำไมต้องไปจีน? “ – LIFE+JOURNEY ยกเลิกการตอบ